ค้นหา

คุรุสภาประกาศสอบเพื่อขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ครั้งที่ 2/2565

ผศ.ดร.อมลวรรณ  วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า คุรุสภากำหนดจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2565 ในวันที่ 24 – 25 ธันวาคม 2565  จำนวน 4 วิชา 

     -โดยวันที่ 24 ธันวาคม 2565 เวลา 09.30 – 11.00 น. สอบวิชาการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร เวลา 12.30 – 14.00 น. สอบวิชาการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร  และ เวลา 15.00 – 16.30 น. สอบวิชาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา และ

     -วันที่ 25 ธันวาคม 2565  เวลา 09.00-12.00 น. สอบวิชาชีพครู

 

·    สำหรับระบบ วิธีการ ขั้นตอน และเงื่อนไขในการลงทะเบียน บันทึกข้อมูล และสมัครเข้ารับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู  

           -ให้ดำเนินการตามประกาศสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ผู้มีคุณสมบัติเข้ารับการทดสอบฯ ทั้งชาวไทย หรือชาวต่างประเทศ สามารถสมัครเข้ารับการทดสอบได้ระหว่างวันที่ 16 – 30 พฤศจิกายน 2565 ตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนด ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://ksp.thaijobjob.com 

           -การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการทดสอบฯ และพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2565 และประกาศผลการทดสอบฯ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566

            - กรณีชาวต่างประเทศหรือชาวไทยที่อยู่ระหว่างศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาในปริญญาทางการศึกษา หรือประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู หรือปริญญาตรีอื่นที่คุรุสภารับรองจากสถาบันอุดมศึกษาต่างประเทศ  หรือหลักสูตรภาษาอังกฤษ หรือหลักสูตรนานาชาติจากสถาบันอุดมศึกษาประเทศไทย ให้ยกเว้นการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ในวิชาการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร

  • ผู้มีสิทธิเข้ารับการทดสอบฯ แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

          1) ผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูฯ ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2564  และครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2565 สามารถตรวจสอบสิทธิโดยกรอกเลขประจำตัวประชาชน ที่ใช้ในการสมัคร   เข้ารับการทดสอบฯ ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2564 และครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2565 เพื่อเข้าสู่ระบบรับสมัครเข้ารับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู กรณีไม่สามารถเข้าระบบรับสมัครสอบฯ ผู้สมัครเข้ารับการทดสอบฯ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ปรากฎในระบบรับสมัครสอบ

          2) ผู้สมัครเข้ารับการทดสอบฯ เป็นครั้งแรก สามารถตรวจสอบสิทธิ โดยกรอกเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งเป็นข้อมูลที่สถาบันอุดมศึกษาลงทะเบียนและบันทึกข้อมูลผ่านระบบ TEPIS  

      -กรณีไม่สามารถเข้าสู่ระบบรับสมัครสอบได้ ผู้สมัครเข้ารับการทดสอบฯ ต้องติดต่อสถาบันอุดมศึกษาของตนเอง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูล และให้สถาบันอุดมศึกษามีหนังสือแจ้งแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลกลับมายังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป 

      -กรณีผู้สมัครเข้ารับการทดสอบฯ เป็นชาวต่างประเทศจะใช้เลขประจำตัวคุรุสภาที่สถาบันอุดมศึกษาสร้างขึ้นผ่านระบบสารสนเทศผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (TEPIS) แทนเลขประจำตัวประชาชน กรณีไม่สามารถเข้าสู่ระบบรับสมัครสอบของสถาบันทดสอบได้ ให้ดำเนินการเช่นเดี่ยวกับผู้สมัครเข้ารับการทดสอบฯ เป็นครั้งแรก

 

·    ระบบ วิธีการ ขั้นตอน และเงื่อนไขในการลงทะเบียน บันทึกข้อมูล และสมัครเข้ารับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู 

         ให้ดำเนินการตามประกาศสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ผู้มีคุณสมบัติเข้ารับการทดสอบฯ ทั้งชาวไทย หรือชาวต่างประเทศ สามารถสมัครเข้ารับการทดสอบได้ระหว่างวันที่  16 – 30 พฤศจิกายน 2565 ตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนด ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://ksp.thaijobjob.com 

          การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการทดสอบฯ และพิมพ์บัตรประจำตัวสอบ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2565 และประกาศผลการทดสอบฯ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566

 

·    อัตราค่าสมัครเข้ารับการทดสอบฯ 

        สำหรับชาวไทย วิชาละ 300 บาท สำหรับชาวต่างประเทศวิชาละ 500 บาท และผู้เข้ารับการทดสอบสามารถเลือกสนามสอบได้ 2 จังหวัด จากจำนวนสนามสอบ 9 จังหวัด  ได้แก่ กรุงเทพมหานคร  จังหวัดนครปฐม  จังหวัดเชียงใหม่  จังหวัดพิษณุโลก  จังหวัดชลบุรี  จังหวัดขอนแก่น  จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี  โดยลำดับที่ 1 เป็นจังหวัดที่ต้องการสอบมากที่สุด  และลำดับที่ เป็นจังหวัดที่ต้องการสอบรองลงมา

 

·    การชำระเงิน 

         ผู้สมัครเข้ารับการทดสอบฯ สามารถชำระเงินผ่านทางระบบแอปพลิเคชัน (Application) ได้ทุกธนาคาร และปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยสามารถชำระเงินผ่านการสแกนรหัสคิวอาร์โค้ด (QR Code)  ที่ระบบกำหนดในใบชำระเงินตามระยะเวลาที่กำหนด  

หากผู้สมัครเข้ารับการทดสอบฯ ดำเนินการไม่ถูกต้อง และไม่อยู่ในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าไม่สามารถสมัครเข้ารับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูได้

         

·    เกณฑ์การผ่านการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู 

          ผู้เข้ารับการทดสอบฯ ต้องมีผลคะแนนการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ในรายวิชาที่เข้ารับการทดสอบวิชาละไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 กรณีมีวิชาที่ผลคะแนนการทดสอบไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบฯ  ให้ผู้เข้ารับการทดสอบสมัครสอบในรายวิชาที่มีผลคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์การทดสอบฯ ในการจัดการทดสอบครั้งต่อไป 

         ทั้งนี้ ระยะเวลาการใช้ผลการทดสอบฯ แต่ละรายวิชาสามารถใช้ได้ไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ประกาศผล  หากผลคะแนนการทดสอบรายวิชาใดเกินระยะเวลาที่กำหนดให้ถือว่าผลคะแนนดังกล่าวสิ้นสุด และต้องเข้ารับ การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูอีกครั้งหนึ่ง

 

·    การประกาศผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู 

          สามารถตรวจสอบและพิมพ์ผลการทดสอบฯ เป็นรายบุคคล ในรายวิชาที่เข้าทดสอบผ่านช่องทางออนไลน์ได้ด้วยตนเอง ผ่านระบบ “KSP Self-Service” ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา

 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ksp.or.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ เบอร์โทร. 0 2280 0048

 

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม

·      ราชกิจจานุเบกษาประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564

·      หลักเกณฑ์การเทียบเคียงผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ประจำปี พ.ศ. 2563 – 2565

·      ดูรายละเอียด ผังการสร้างข้อสอบ (Test Blueprint) สำหรับการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 2/2565

 

แนวปฏิบัติสำหรับผู้เข้าสอบ

คุรุสภากำหนดจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2565 

 

ที่มา ; สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา

ข่าวเกี่ยวกัน

13 ..นี้ คุรุสภาประกาศชื่อผู้มีสิทธิสอบรับตั๋วครู ครั้งที่ 2/2565

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ผศ.ดร.อมลวรรณ  วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้กำหนดจัดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 2 ประจำปี .. 2565 ในวันที่24 – 25 ธันวาคม 2565 จำนวน 4 วิชา ใน 9 สนามสอบ โดยปิดรับสมัครเข้ารับการทดสอบฯไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น 

จากการตรวจสอบคุณสมบัติ พบว่า มีผู้ที่มีคุณสมบัติเข้ารับการทดสอบฯทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ รวมจำนวน 53,745 คน จากผู้สมัครทั้งสิ้น57,082 คน ซึ่งในครั้งนี้มีผู้สมัครที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ 223 รูป ตั้งครรภ์ 140 คน และผู้พิการ 88 คน แบ่งเป็น ผู้พิการทางการได้ยิน 18 คน ผู้พิการทางการมองเห็น 35 คน และผู้พิการทางร่างกาย 35 คน ซึ่งทางสนามสอบต่างๆได้เตรียมจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าสอบให้อย่างเหมาะสม และเป็นไปตามมาตรฐานการทดสอบ  โดยคุรุสภาจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการทดสอบฯ พร้อมสนามสอบ และให้พิมพ์บัตรประจำตัวสอบผ่านระบบออนไลน์ที่ https://ksp.thaijobjob.com ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ จึงขอให้ผู้มีสิทธิเข้ารับการทดสอบฯตรวจสถานที่ตั้งสนามสอบที่ตนเองจะเข้าทดสอบ ศึกษาหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติการเข้าทดสอบเตรียมตัวและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบฯ ให้พร้อม

“ คุรุสภาได้กำหนดหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติการเข้าห้องสอบของผู้มีสิทธิเข้ารับการทดสอบ ดังนี้ต้องแต่งกายสุภาพ ตามเพศที่ระบุไว้ในบัตรประจำตัวประชาชน หรือ เอกสารทางราชการเท่านั้น สวมรองเท้าหุ้มส้น ห้ามใส่เสื้อคลุม เสื้อแจ๊คเก็ต เสื้อแขนกุด เสื้อสายเดี่ยว เสื้อเกาะอกเสื้อยืดคอกลม กางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์ กระโปรงยีนส์ และห้ามสวมรองเท้าแตะ รองเท้ารัดส้น , ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง หรือ บัตรที่ได้จากหน่วยงานของรัฐออกให้ ซึ่งมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักชัดเจนและมีรูปถ่ายแสดงตนก่อนเข้าห้องสอบ ,ไม่มาสายเกินเวลากำหนดเริ่มทำการทดสอบ 30 นาที หากเกินกำหนดไม่มีสิทธิเข้าห้องสอบ ,กรณีไปผิดสนามสอบหรือห้องสอบ ต้องกลับไปยังสนามสอบเดิมหรือห้องสอบเดิม ,สวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่าง ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในห้องสอบและสนามสอบต้องอยู่ในห้องสอบจนกว่าจะหมดเวลาทดสอบ , อุปกรณ์ที่อนุญาตให้นำเข้าห้องสอบได้ คือ ปากกาลูกลื่น ดินสอดำที่มีความเข้ม 2B ขึ้นไป กบเหลาดินสอ ยางลบ และน้ำยาลบคำผิดเท่านั้น ไม่นำเครื่องมือ อุปกรณ์สื่อสารเครื่องคิดเลขเข้าห้องสอบ หากพบว่านำอุปกรณ์ที่ไม่ได้กำหนดไว้เข้าห้องสอบ ถือว่าเป็นการกระทำที่ส่อทุจริตหรือทุจริตต้องยุติการทำข้อสอบ และต้องนั่งอยู่ในห้องสอบจนกว่าจะหมดเวลาสอบ โดยจะไม่ได้รับการตรวจกระดาษคำตอบทุกวิชาที่เข้าสอบ และไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ จากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้ ” ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าว 

เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อว่า คุรุสภาได้ประสานให้ทุกสนามสอบมีมาตรการเข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 อย่างเคร่งครัดเนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงขาขึ้นของการระบาด ซึ่งการทดสอบฯครั้งนี้จากผู้มีสิทธิ์เข้าทดสอบทั้งหมด จะกระจายเข้ารับการทดสอบใน 9 จังหวัดที่กำหนดเป็นสนามสอบ โดยจำแนกผู้มีสิทธิเข้าทดสอบฯ ดังนี้ กรุงเทพมหานคร 8,463 คน  จังหวัดนครปฐม 4,698 คน  จังหวัดเชียงใหม่4,914 คน  จังหวัดพิษณุโลก 5,524 คน  จังหวัดชลบุรี 2,128 คน  จังหวัดขอนแก่น 12,452 คน  จังหวัดนครราชสีมา 6,645 คน จังหวัดสงขลา 5,879 คน และจังหวัดสุราษฎร์ธานี 3,042 คน ทั้งนี้ ในวันที่ 24 ธันวาคม 2565 เวลา 09.30 – 11.00 สอบวิชาการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร เวลา 12.30 – 14.00 สอบวิชาการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร  และ เวลา 15.00 – 16.30 สอบวิชาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา และวันที่ 25 ธันวาคม 2565  เวลา09.00-12.00 สอบวิชาชีพครู 

ทั้งนี้ คุรุสภาจะประกาศผลการทดสอบฯครั้งที่ 2/2565  ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566

ที่มา ; มติชนออนไลน์

ข่าวเกี่ยวกัน

สอบตั๋วครูราบรื่น ‘ตรีนุช’ ลั่นปี’66 ผ่านคอมพ์ครั้งแรก

 

 

น.ส.ตรีนุชกล่าวอีกว่า การทดสอบครั้งที่ 2 มีผู้สมัครทั้งสิ้น 57,082 คน มีสิทธิเข้าทดสอบ 53,745 คน ใน 9 ศูนย์สอบ จำแนกผู้มีสิทธิเข้าสอบตามสนามสอบ 9 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ 24,636 คน นครปฐม 13,523 คน เชียงใหม่ 14,559 คน พิษณุโลก 15,561 คน ชลบุรี 6,148 คน ขอนแก่น 36,551 คน นครราชสีมา 19,130 คน สงขลา 17,287 คน และสุราษฎ์ธานี 8,853 คน นอกจากนี้ มีผู้มีสิทธิเข้าสอบที่เป็นกลุ่มที่มีความต้องการพิเศษ เช่น ผู้บกพร่องทางการเห็น 35 คน ตั้งครรภ์ 140 คน บกพร่องทางการได้ยิน 18 คน และบกพร่องทางร่างกาย 35 คน เป็นต้น ขณะที่บางคนต้องนั่งวิลแชร์ ซึ่งสนามสอบต่างๆ ได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าสอบให้อย่างเหมาะสม รวมถึงข้อสอบที่ใช้ในการสอบก็เป็นไปตามมาตรฐานในการจัดสอบด้วย 

การทดสอบครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่สอบ 4 วิชา เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการคุรุสภามีมติปรับปรุงการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใหม่ โดยให้ลดการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตฯ เหลือ 2 วิชา คือ วิชาชีพครู และวิชาที่สอน หรือวิชาเอก เพื่อให้สามารถคัดคนได้ตรงกับเป้าหมาย ตรงกับวิชาเอกจริงๆ อีกทั้งการทดสอบครั้งนี้ จะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายที่สอบด้วยกระดาษ เพราะในปี 2566 คุรุสภาจะปรับการสอบใหม่ ให้สอบผ่านระบบ E-Testing คือสอบผ่านคอมพิวเตอร์ทั้งหมด” น.ส.ตรีนุชกล่าว 

ด้านนางอมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า คุรุสภาอยู่ระหว่างการเตรียมการจัดทำระบบทดสอบในปี 2566 ลดวิชาสอบเหลือ 2 วิชา คือ วิชาชีพครู และวิชาที่สอน หรือวิชาเอก รวมทั้งจัดสอบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยคุรุสภาจะทดสอบระบบครั้งแรกในเดือนมกราคม 2566 เพื่อดูว่าระบบที่มีอยู่รองรับผู้เข้าสอบผ่านคอมพิวเตอร์ได้มากที่สุดเท่าไหร่ 

สำหรับการออกข้อสอบวิชาชีพครู คุรุสภาได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาจัดทำ Blueprint ข้อสอบใหม่ทั้งหมด ส่วนการสอบวิชาที่สอน หรือวิชาเอก คุรุสภาอยู่ระหว่างการแบ่งกลุ่มวิชาให้เกิดความชัดเจน เช่น วิชาที่สอนในหลักสูตรอาชีวศึกษา ก็ให้ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มาช่วยจัดทำข้อสอบ เป็นต้น โดยคุรุสภาจะเร่งดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เสร็จเร็วที่สุด คาดว่าการดำเนินการต่างๆ จะแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดรับสมัครสอบภายในเดือนเมษายน 2566 และจัดสอบภายในเดือนพฤษภาคม 2566 

ความเห็นของผู้ชม

 แสดงความคิดเห็น