จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 7 ได้รับการร้องเรียนจากลูกเพจท่านหนึ่ง ซึ่งระบุว่า พ่อทำงานเป็นภารโรงมากว่า 10 ปี มีหน้าที่ขับรถรับส่งนักเรียน โดยใช้รถของโรงเรียน เป็นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฮีโร่ ซึ่งเป็นรถเก่ามีอายุมากกว่า 37 ปี แต่เกิดปัญหารถพัง
โรงเรียนนำรถไปซ่อม ต้องจ่ายค่าซ่อม 25,000 บาท ผอ.โรงเรียน ให้ภารโรงซึ่งเป็นคนขับรถจ่ายค่าซ่อมทั้งหมด โดยเริ่มจากการหักเงินเดือนครั้งแรก 9,000 บาท จากเงินเดือน 10,000 บาท
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่า ภารโรงคนดังกล่าวคือ นายกฤษณะ พิทักษ์เกิด อายุ 51 ปี ชาว อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ตำแหน่งนักการภารโรง โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด
นายกฤษณะ เล่าว่า ตนเป็นภารโรงได้ประมาณ 10 ปี ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท ช่วงหลัง ผอ. ได้ให้ตนเป็นคนขับรถรับส่งนักเรียน โดยใช้รถของโรงเรียน เป็นรถยนต์ติดคอกทำเป็นรถสองแถวมีหน้าที่ขับรถรับส่งนักเรียนตามหมู่บ้าน รถยนต์สองแถวคันดังกล่าวที่ตนขับเป็นรถรุ่นเก่า อายุจนถึงตอนนี้ประมาณ 37 ปี มีข้อเสียหลายอย่าง โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ทรุดโทรม ต้องเติมน้ำมันเครื่องทุกวันเนื่องจากเครื่องยนต์หลวม
ก่อนเกิดเหตุ ตนลางาน 2 วัน ช่วงวันที่ 1-2 ก.ค. เพราะต้องไปทำธุระที่กรุงเทพฯ โดย ผอ. ให้รองปลัดเทศบาลตำบลนาโพธิ์ เป็นคนขับรถรับส่งนักเรียนแทน หลังกลับมา ผอ. เรียกไปพบว่า รถนักเรียนเครื่องพังต้องเอาไปซ่อม แต่จะให้ตนรับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมด ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่าค่าซ่อมเท่าไหร่ จึงแค่รับฟังไว้จนกระทั่งบิลค่าซ่อมรถจากอู่ออกมายอด 24,600 บาท ผอ.ได้เรียกตนให้ไปคุย โดยสรุปเบื้องต้นว่าให้ตนรับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมด ตอนนั้นยอมรับว่าอึ้ง เพราะตนเพียงแค่เป็นคนขับรถให้เท่านั้น ล่าสุดเงินเดือนสิ้นเดือนนี้ ตนถูกหักไปทั้งหมด 9,500 บาท จากเงินเดือน 10,000 บาท แต่ยังไม่วายที่ ผอ. จะตามจี้เอาเงินส่วนที่เหลือจากค่าซ่อมอีก 15,000 บาท ตนจึงตัดสินใจเขียนใบลาออกจากการเป็นภารโรง
จากนั้นลูกสาวได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ จนกระทั่ง ผอ. เรียกตนเข้าไปคุยอีกครั้ง ว่าจะให้กลับมาทำงานต่อ แต่ต้องหักส่วนที่ค้างจ่ายค่าซ่อมอีก 15,000 บาท โดยจะหักเงินเดือน ๆ ละ 3,000 บาท รวม 5 เดือน แต่ลูกสาวไม่ยอม เพราะมองว่าเรื่องนี้ตนไม่ได้รับความยุติธรรม
นายกฤษณะ เล่าต่อว่า ตนเป็นภารโรง แต่เมื่อผู้บังคับบัญชาให้ทำหน้าที่ขับรถ ตนก็ยอม แต่การให้จ่ายค่าซ่อมให้ ตนมองว่าไม่ยุติธรรม เพราะรถอยู่ในสภาพเก่า แบบเลี้ยงให้วิ่งได้ในแต่ละวัน เพราะรถอยู่ในลักษณะระยะสุดท้ายของอายุใช้งานมันแล้ว
น้ำตาภารโรง! รถโรงเรียน ใช้รับส่งมา 37 ปี เสีย ผอ. ให้ภารโรงที่เป็นคนขับรับผิดชอบจ่ายเองทั้งหมด เงินเดือน 1 หมื่น ผอ. หักไปเดือนละ 9 พัน
ที่มา ; ข่าวสดออนไลน์
เกี่ยวข้องกัน
โรงเรียนดังแจงวุ่น ปมหักเงินเดือนภารโรง จ่ายค่าซ่อมรถ แต่ชี้หน้าที่ต้องดูแล ยังไม่ยอมให้ลาออก
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม กรณีลูกสาวนายกฤษณะ หรือหนึ่ง พิทักษ์เกิด อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 1 ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ตำแหน่งนักการภารโรง โรงเรียนเทศบาลนาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ โพสต์ขอความเป็นธรรม
โดยกล่าวอ้างว่าผู้บริหารโรงเรียน หักเงินเดือนพ่อของตนคือนักการภารโรงไปทั้งหมด 9,500 บาท จากเงินเดือน 10,000 บาท ที่เหลืออีก 500 เป็นค่าประกันสังคม เท่ากับไม่เหลือเงินแม้แต่บาทเดียวของเงินเดือน เดือนนี้ เพื่อเอาไปจ่ายค่าซ่อมรถรับส่งนักเรียนที่นักการภารโรงเป็นคนรับผิดชอบขับรับส่งนักเรียนเป็นประจำ จำนวนเงิน 24,600 บาท
โดยยังจะให้จ่ายส่วนที่เหลือจากยอดค่าซ่อมอีก 15,000 บาท ด้วยการหักเงินเดือนอีกหลังจากนี้เป็นต้นไป จนนักการภารโรงยื่นใบลาออกเพื่อหนีภาระที่จะเกิดขึ้น
ซึ่งจากการสอบถามนายกฤษณะ ออกมายืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง รองปลัดได้เรียกตนหลังจากกลับจากการลาทำงาน 2 วัน ไปพูดคุยเพื่อให้รับผิดชอบทั้งหมดจริง หลังจากตกเป็นข่าวชาวเน็ตต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักในช่วงข้ามคืน
ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่โรงเรียนเทศบาลนาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ พบนายปัญญา ปักกาโต รองปลัดรักษาการแทนปลัดเทศบาลตำบลนาโพธิ์ และรักษาการแทน ผอ.โรงเรียนเทศบาลนาโพธิ์ ระบุว่า
รถคันดังกล่าวนักการภารโรงเป็นคนดูแลรับผิดชอบ ดูแลทั้งน้ำเครื่อง น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดก่อนจะใช้งานจะต้องดูแลก่อน ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่า คนขับรถหรือผู้รับผิดชอบจะต้องเป็นคนตรวจสอบก่อนขับออกไปอยู่แล้ว แต่คนที่ดูแลเองได้ขับรถจนน้ำมันเครื่องมันแห้ง จนเครื่องไหม้น็อกอยู่กับที่ ซึ่งคนที่ดูแลรถคันนี้คือนักการภารโรงเพราะถือเป็นหน้าที่
ส่วนการลาออกของภารโรงนั้นยังไม่อนุมัติ เพราะจะต้องตรวจสอบก่อนว่ามีภาระติดค้างอะไรบ้างกับทางราชการหรือไม่ เขาได้ทำทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหรือไม่
สำหรับการหักเงินเดือนนั้นยืนยันยังไม่ได้หักเงินเดือนใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงการผ่อนจ่ายค่าซ่อมรถที่เหลืออีกนั้นก็ไม่เป็นความจริง กรณีใบลาออกนั้นยังไม่มีผลและนักการฯได้มาขอใบลาออกคืนแล้ว ยังมาทำงานตามปกติเหมือนเดิม
นายปัญญากล่าวด้วยว่า รถคันนี้เป็นรถของเอกชนที่เอามาบริจาคให้รับส่งนักเรียน หลังจากเครื่องยนต์เสียหายมีค่าซ่อมเกือบ 25,000 นั้น เจ้าของยินดีจ่ายค่าซ่อมทั้งหมดแล้ว ย้ำไม่เคยมีการหักเงินเดือนและจะให้ผ่อนค่าจ่ายแต่อย่างใด
ขณะที่นายกฤษณะออกมาพูดหลังจากตกเป็นข่าวด้วยเสียงสั่นเครือและกลืนน้ำลายว่า ตอนนี้เงินเดือนไม่ได้โดนหัก เป็นความผิดพลาดของผมเองที่ไม่ได้ดูสลิปเงินเดือน ส่วนรถคันนี้ถือว่าเป็นความผิดของตนที่ไม่ดูแลรถ ต้องขอโทษทางเทศบาล ขอโทษทุกๆ ฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ และทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ค่าซ่อมตนไม่ต้องจ่าย ขอโทษเทศบาลอีกครั้งที่ตนทำให้ออกสื่อ
ที่มา ; มติชนออนไลน์