ค้นหา

10 ข้อ “วิธีบริหารเวลา ให้คุ้มค่าที่สุดในแต่ละวัน”

รวมเทคนิคการจัดการเวลาแบบมือโปร เพิ่ม Productivity ทำงานได้มากขึ้น ใช้ชีวิตได้คุ้มค่ากว่าเดิม

สรุป 10 ข้อ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ จัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

1. กำหนดเป้าหมาย : เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายในแต่ละวัน สัปดาห์ และเดือน เพื่อให้เห็นภาพรวมและทิศทางที่ชัดเจน 

2. จัดลำดับความสำคัญ : แยกแยะภารกิจสำคัญ เร่งด่วน และสิ่งที่สามารถละเลยได้ เพื่อจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 

3. วางแผน : จัดทำตารางเวลา To-do-list หรือใช้แอปพลิเคชัน เพื่อช่วยในการบริหารจัดการเวลา 

4. แบ่งเวลาเป็นช่วงๆ : แบ่งเวลาทำงานเป็นช่วงๆ สลับกับการพักผ่อน เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 

5. หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน : ปิดการแจ้งเตือน โซเชียลมีเดีย หรือสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เสียสมาธิ 

6. มอบหมายงาน : เรียนรู้การมอบหมายงานให้ผู้อื่น เมื่อมีโอกาส เพื่อลดภาระงานของตนเอง 

7. จัดการกับงานที่ใช้เวลาน้อย : จัดการกับงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้เวลาไม่นาน ให้เสร็จสิ้น เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระสะสม 

8. พักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยให้ร่างกายและสมอง พร้อมสำหรับการทำงานในวันต่อไป 

9. ทบทวน : ประเมินผลการทำงาน และทบทวน เพื่อปรับปรุงวิธีการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

10. อย่าลืมเวลาสำหรับตัวเอง : จัดสรรเวลาสำหรับพักผ่อน ผ่อนคลาย และทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เพื่อเติมเต็มความสุขในชีวิต 

ที่มา ; FB โครตฉลาด

เกี่ยวข้องกัน

21 วิธีเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง

การผลัดวันประกันพรุ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำงานและพัฒนาตัวเองให้สำเร็จ มาดูวิธีจัดการพฤติกรรมนี้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน ; กำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและเป็นไปได้ เช่น แทนที่จะบอกว่า “ฉันจะทำงานให้เสร็จ” ให้ระบุว่า “ฉันจะเขียนบทความ 500 คำภายในวันนี้”

2. แบ่งงานเป็นส่วนย่อย ; งานใหญ่ๆ อาจดูน่ากลัว ลองแบ่งเป็นงานเล็กๆ แล้วจัดลำดับความสำคัญ

3. ใช้กฎ 2 นาที ; หากงานใดใช้เวลาน้อยกว่า 2 นาที ให้ทำทันที

4. จัดลำดับความสำคัญ ด้วยเทคนิค Eisenhower Matrix โดย แยกงานออกเป็น 4 ประเภท:

สำคัญและเร่งด่วน: ทำทันที

สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน: วางแผนทำ

ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน: มอบหมาย

ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน: ตัดทิ้ง

5. ใช้เทคนิค Pomodoro ; ทำงาน 25 นาทีแล้วพัก 5 นาที ช่วยให้มีสมาธิและลดความเหนื่อยล้า

6. สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ; กำจัดสิ่งรบกวน เช่น โทรศัพท์ หรือแจ้งเตือนจากโซเชียลมีเดีย

7. กำหนดเส้นตายที่ชัดเจน ; เส้นตายช่วยกระตุ้นให้ลงมือทำ และควรเป็นเส้นตายที่สมเหตุสมผล

8. เริ่มต้นด้วยงานง่าย ; เริ่มทำสิ่งที่ง่ายที่สุดก่อน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำสิ่งที่เหลือ

9. จัดทำรายการสิ่งที่ต้องทำ (To-Do List) ; เขียนสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน และเช็กว่าทำสำเร็จไปกี่ข้อ

10. ใช้แรงจูงใจส่วนตัว ;หาสิ่งกระตุ้น เช่น การให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ

11. ลดความคาดหวังในตัวเอง ; เลิกกังวลว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ให้โฟกัสที่การเริ่มต้น

12. ใช้พลังของคำว่า “ตอนนี้” ; บอกตัวเองว่า “เริ่มทำตอนนี้” เพื่อกระตุ้นการลงมือทำทันที

13. สร้างนิสัยการทำงานประจำวัน ; กำหนดเวลาให้ตัวเองทำงานเดิมในเวลาเดียวกันทุกวัน

14. หาคนช่วยตรวจสอบหรือร่วมทำงาน ;เพื่อนหรือที่ปรึกษาจะช่วยกระตุ้นให้คุณทำงานอย่างจริงจัง

15. จัดลำดับงานตามเวลาและพลังงาน ; ทำงานที่ยากในช่วงที่คุณมีพลังงานสูง เช่น ช่วงเช้า

16. ตระหนักถึงผลกระทบของการผลัดวันประกันพรุ่ง ; คิดถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้น เช่น งานค้าง หรือเสียโอกาส

17. เลิกทำหลายอย่างพร้อมกัน ; โฟกัสที่งานเดียวในเวลานั้นๆ เพื่อประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

18. ฝึกการปฏิเสธ ; อย่ารับงานใหม่ที่ไม่สำคัญหรือไม่เร่งด่วน จนทำให้คุณไม่มีเวลาสำหรับงานสำคัญ

19. สร้างแรงกดดันเชิงบวก ; แจ้งเป้าหมายหรือกำหนดเวลาให้คนอื่นรับรู้ เพื่อสร้างแรงผลักดัน

20. ทบทวนความสำเร็จรายวัน ; เมื่อทำงานสำเร็จ ให้จดบันทึกและชื่นชมตัวเอง

21. ขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น ; ถ้าคุณพบว่าปัญหาเกินกว่าจะจัดการได้ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือผู้เชี่ยวชาญ 

ลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองและเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทีละน้อย คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน 

ที่มา ;FB Readism Journey